ทร.แจงซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาท สัญญาถูกต้อง - คุ้มภาษีประชาชน - ช่อง 7

pasokpatokin.blogspot.com

เช้านี้ที่หมอชิต - กองทัพเรือ ชี้แจงกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท จากประเทศจีน หลังถูกโจมตีว่าสัญญาไม่ถูกต้อง และถูกสังคมตั้งคำถามถึงความจำเป็นในการใช้งบประมาณ ยืนยันมีสัญญาซื้อเรือดำน้ำแบบรัฐต่อรัฐถูกต้อง และเป็นโครงการต่อเนื่อง ซึ่งอยู่ในงบที่กองทัพได้รับอยู่แล้ว มีประโยชน์คุ้มค่าเพื่อการดูแลประเทศ 

ความคืบหน้ากรณีที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างงบประมาณปี 2564 สภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบงบประมาณของกองทัพเรือ จัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ ในวงเงิน 22,500 ล้านบาท

ซึ่งกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากสังคมอย่างหนัก เนื่องจากการจัดซื้อเรือดำน้ำดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่รัฐบาลกำลังพยายามแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจ ที่เกิดจากผลกระทบการระบาดของโรคโควิด-19 สังคมออนไลน์ได้มีการตั้งคำถามถึงความจำเป็นของการจัดซื้อเรือดำน้ำดังกล่าว และเปรียบเทียบเงินงบประมาณ 22,500 ล้านบาท อาจนำไปแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ หรือระบบสาธารณูปโภคอื่น ๆ ในประเทศที่ยังมีปัญหาอีกหลายด้านก่อน 

โดยวานนี้ (24 ส.ค.) พลเรือโทประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ โฆษกกองทัพเรือ และคณะทำงาน ได้ชี้แจงเหตุผลการจัดซื้อเรือดำน้ำ โดยระบุเรือดำน้ำเป็นอาวุธทางยุทธศาสตร์ที่มีความจำเป็นต่อการปกป้องประเทศ โดยเมื่อปี 2560 กองทัพเรือ เคยชี้แจงความจำเป็นที่ต้องมีเรือดำน้ำ และขณะนั้นประเทศเพื่อนบ้านก็มีการจัดซื้อเรือดำน้ำ จนถึงปัจจุบันบางประเทศมีการจัดซื้อเพิ่ม ขณะที่ประเทศไทยยังคงอยู่ระหว่างการจัดหา รวมทั้งปัจจุบันในทะเลจีนใต้มีกรณีเกิดปัญหาในพื้นที่ทับซ้อนมาแล้ว ซึ่งหากเกิดการปะทะกัน ก็จะส่งกระทบผลประโยชน์ของประเทศ

ส่วนประเด็นที่มีข่าวว่าการลงนามของ กองทัพเรือ แบบรัฐต่อรัฐ ไม่มีกฎหมายรองรับ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ก่อนหน้านี้มีการเจรจาระหว่างผู้แทนรัฐบาลไทยกับจีนหลายครั้ง จนคณะรัฐมนตรีมีมติให้ผู้บัญชาการทหารเรือเป็นตัวแทนในการลงนามความตกลง เช่นเดียวกับทางรัฐบาลจีน ซึ่งมอบหมายอู่เรือเป็นบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งเป็นผู้แทน

อีกประเด็นคืองบประมาณซื้อวงเงิน 22,500 ล้านบาท ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ยืนยันว่าถือเป็นโอกาสและความคุ้มค่าที่ กองทัพเรือ ไม่จำเป็นต้องจ่ายเงินก้อนในครั้งเดียว เนื่องจากสามารถทยอยผ่อนจ่ายได้ 7 ปี และการสั่งจัดซื้อในตอนนี้ต้องใช้เวลาอีก 6 ปี ในการดำเนินการ จนได้รับเรือดำน้ำในปี 2570 และได้ผลประโยชน์เพิ่มเติมมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท

สำหรับงบประมาณการจัดหาเรือดำน้ำทั้ง 2 ลำ เป็นส่วนหนึ่งของการจัดหาเรือดำน้ำ 3 ลำ มูลค่ากว่า 30,000 ล้านบาท โดยปี 2560 ได้จัดหาไปแล้ว 1 ลำ และ 2 ลำในปีนี้ที่กลายเป็นข่าวอีกครั้ง ก็เป็นโครงการต่อเนื่อง อยู่ในงบประจำปีของกองทัพเรือ ซึ่งจริง ๆ แล้ว โครงการต้องเสร็จสิ้นไปตั้งแต่งบปี 2563 แต่เมื่อเกิดการระบาดของโรคโควิด-19 กองทัพเรือ ก็ได้โอนงบคืนให้รัฐบาลใช้ในการแก้ปัญหา และทำให้เกิดความล่าช้าจนเดือนกันยายนนี้ จึงถึงกำหนดในการลงนามอีกครั้ง

นอกจากนั้นในปี 2564 กองทัพเรือ ได้ลดโครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพ เหลือเพียงโครงการเดียว คือ การจัดหาเรือลากจูงขนาดกลาง 1 ลำ วงเงิน 73.3 ล้านบาท เพื่อนำมาใช้ในการจัดหาเรือดำน้ำให้ครบ 3 ลำ เงินจำนวนนี้ถือว่าเป็นจำนวนเงินที่น้อยมาก เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ของชาติที่จะรักษาไว้ และไม่อยากให้นักการเมือง นำมาเป็นเครื่องมือทางการเมือง และสร้างความเกลียดชังให้กับกองทัพเรือ

ส่วนประเด็นที่ประชาชนตั้งคำถามว่า ทำไมกองทัพเรือหรือรัฐบาลไม่นำงบประมาณจำนวนนี้ไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์ในด้านอื่นก่อน ยืนยันว่าตามระบบของการดำเนินการงบประมาณส่วนนี้ที่กองทัพได้รับ ไม่สามารถโยกย้ายไปทำอย่างอื่นได้แล้ว

แต่ยอมรับว่าหากงบประมาณนี้ไม่ได้รับการอนุมัติ และ กองทัพเรือ ต้องยกเลิกการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีนนั้น ไม่มีค่าปรับ แต่ข้อตกลงอื่น ๆ และราคาเรือดำน้ำที่เคยได้จากการตกลงกันไว้ครั้งนี้ก็จะต้องยกเลิกไป รวมถึงความน่าเชื่อถือในเชิงพาณิชย์ของประเทศด้วย เช่นเดียวกับคำถามที่ว่าทำไมกองทัพเรือ ถึงจำเป็นต้องซื้อเรือดำน้ำถึง 3 ลำ ยืนยันว่าการจัดซื้อเป็นตามหลักยุทธศาสตร์การรบที่จำเป็น

ขอบคุณภาพจาก : Facebook คาราโอเกะชั้นใต้ดิน,  Twitter @Bangkokgags, Youtube CGTN, Youtube FourStar Military, Youtube DefenseWebTV

Let's block ads! (Why?)

"จัดหา" - Google News
August 24, 2020 at 06:25PM
https://ift.tt/3leo1lD

ทร.แจงซื้อเรือดำน้ำ 22,500 ล้านบาท สัญญาถูกต้อง - คุ้มภาษีประชาชน - ช่อง 7
"จัดหา" - Google News
https://ift.tt/3ceXJKl
Home To Blog